Language
 - 
Afrikaans
 - 
af
Albanian
 - 
sq
Amharic
 - 
am
Arabic
 - 
ar
Armenian
 - 
hy
Azerbaijani
 - 
az
Basque
 - 
eu
Belarusian
 - 
be
Bengali
 - 
bn
Bosnian
 - 
bs
Bulgarian
 - 
bg
Catalan
 - 
ca
Cebuano
 - 
ceb
Chichewa
 - 
ny
Chinese (Simplified)
 - 
zh-CN
Chinese (Traditional)
 - 
zh-TW
Corsican
 - 
co
Croatian
 - 
hr
Czech
 - 
cs
Danish
 - 
da
Dutch
 - 
nl
English
 - 
en
Esperanto
 - 
eo
Estonian
 - 
et
Filipino
 - 
tl
Finnish
 - 
fi
French
 - 
fr
Frisian
 - 
fy
Galician
 - 
gl
Georgian
 - 
ka
German
 - 
de
Greek
 - 
el
Gujarati
 - 
gu
Haitian Creole
 - 
ht
Hausa
 - 
ha
Hawaiian
 - 
haw
Hebrew
 - 
iw
Hindi
 - 
hi
Hmong
 - 
hmn
Hungarian
 - 
hu
Icelandic
 - 
is
Igbo
 - 
ig
Indonesian
 - 
id
Irish
 - 
ga
Italian
 - 
it
Japanese
 - 
ja
Javanese
 - 
jw
Kannada
 - 
kn
Kazakh
 - 
kk
Khmer
 - 
km
Korean
 - 
ko
Kurdish (Kurmanji)
 - 
ku
Kyrgyz
 - 
ky
Lao
 - 
lo
Latin
 - 
la
Latvian
 - 
lv
Lithuanian
 - 
lt
Luxembourgish
 - 
lb
Macedonian
 - 
mk
Malagasy
 - 
mg
Malay
 - 
ms
Malayalam
 - 
ml
Maltese
 - 
mt
Maori
 - 
mi
Marathi
 - 
mr
Mongolian
 - 
mn
Myanmar (Burmese)
 - 
my
Nepali
 - 
ne
Norwegian
 - 
no
Pashto
 - 
ps
Persian
 - 
fa
Polish
 - 
pl
Portuguese
 - 
pt
Punjabi
 - 
pa
Romanian
 - 
ro
Russian
 - 
ru
Samoan
 - 
sm
Scots Gaelic
 - 
gd
Serbian
 - 
sr
Sesotho
 - 
st
Shona
 - 
sn
Sindhi
 - 
sd
Sinhala
 - 
si
Slovak
 - 
sk
Slovenian
 - 
sl
Somali
 - 
so
Spanish
 - 
es
Sundanese
 - 
su
Swahili
 - 
sw
Swedish
 - 
sv
Tajik
 - 
tg
Tamil
 - 
ta
Telugu
 - 
te
Thai
 - 
th
Turkish
 - 
tr
Ukrainian
 - 
uk
Urdu
 - 
ur
Uzbek
 - 
uz
Vietnamese
 - 
vi
Welsh
 - 
cy
Xhosa
 - 
xh
Yiddish
 - 
yi
Yoruba
 - 
yo
Zulu
 - 
zu

หลวงปู่ผินะ ปิยธโร

หลวงปู่ผินะ ปิยธโร

ประวัติ

หลวงปู่ผินะ ปิยธโร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2456 ณ บ้านหัวลำโพง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ในช่วงวัยเด็กท่านมีโรคประจำตัวที่รักษาไม่หาย หลังจากการร้องให้ทุกครั้ง ท่านมักจะชักจนหน้าเขียว และมารดาได้พาไปหาหมอรักษาโรค หลวงพ่อสิน ได้บอกถึงรางว่า ชื่อ ทวายนั้นเป็นความหมายที่เป็นกาลกิณี จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ผินะ แปลว่า หันหน้า, หันหลัง, เปลี่ยนทิศทาง, ไม่แยแส, หรือเลิกคบกัน นับแต่นั้นอาการดังกล่าวได้ทุเลาลง จากนั้นหลังจากโยมบิดาได้เสียชีวิตลง ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และเมื่ออายุครบบวชท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2481 ณ วัดหนองเต่า โดยมีพระครูอุดมคุณาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอทัพทัน เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาอำนวย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในระหว่างเป็นพระภิกษุ ท่านได้ขออนุญาตเจ้าอาวาสออกธุดงค์ไปจำพรรษาที่ วัดเกาะเทพเทโพ หลังจากอุปสมบทแล้วเพียง 20 วัน ท่านจึงขอสึกออกมา เพราะยังกลัวศพอยู่ อยู่มาได้เพียง 11 วัน โยมมารดาก็ถึงแก่กรรมลงอีก ต่อมาก็เจาะจงมาที่พระภิกษุผินะ จูงศพให้ได้ เพราะเป็นโรคฝีในท้อง สับปเหร่อก็ผ่าท้องให้ดู ท่านก็ฉันอาหารไม่ได้ถึง 3 – 4 วัน และมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ จึงขอเจ้าอาวาสไปพักที่อื่นสัก 5 วัน แล้วจะกลบมาลาสิกขาบท หลวงพ่อคำก็ได้สอบถามท่านและพระภิกษุอีก 1 รูป เป็นคนกลัวผี ก็สั่งสอนว่า สังขารของคนื่อนนั้นมันก็เหมือนกับของเรา จะรังเกียจไปทำไม ต่อมาท่านได้อยู่กับหลวงพ่อคำที่วัดเกาะเทพเทโพ อยู่ในหนึ่งเดือนเต็ม ๆ ก็เลิกกลัวผี เกิดมานะว่าท่านจะบวชตลอดชีวิต ต่อมาท่านึงได้เดินทางแสวงธรรมหาพระคณาจารย์เพื่อเรียนศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน โดยมุ่งหน้าไปที่ วัดถ้ำตะโก แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะ หลวงพ่อท่านได้มรณภาพไปก่อนหน้านั้นแล้ว ด้วยใจที่มานะ ท่านจึงได้อยู่จำพรรษาอยู่ที่ วัดถ้ำตะโก 2 พรรษา (พ.ศ. 2482 – 2484 หลังจากนั้น ท่านได้จาริกธุดงค์ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้อบรมบ่งนิสัยในการรักสันโดษ ออกธุดงค์มาเรื่อย ๆ ก็มาถึงที่ตำบลบ้านสนมลาว อันเป็นบ้านเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานี (3 เมษายน พ.ศ. 1893 – 7 เมษายน พ.ศ. 2310) หลวงพ่อท่านเริ่มอาพาธและถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2545 [4] ก่อนหน้านี้หลวงพ่อผินะได้ทำหนังสือเขียนสั่งไว้ มีใจความว่า “เมื่อฉันละสังขาร ขอให้ปฏิบัติตามนี้ คือ ห้ามฉีดยาศพโดยเด็ดขาด ให้เก็บศพไว้ในสภาพนั่งขัดสมาธิ ให้บรรจุศพไว้ในที่เตรียมไว้ ณ สุสานผินะ ไม่ต้องมีการสวดศพ ไม่ต้องบอกคนมาก ห้ามเผาศพโดยเด็ดขาด” สั่ง ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2545 ลงชื่อ พระผินะ ปิยธโร พระอาจารย์ใหญ่ประธานคณะปฏิบัติธรรม วัดสนมลาววิหาร ด้วยเกิดเหตุปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์ ภายหลังการมรณภาพลงอย่างสงบของ “หลวงพ่อผินะ ปิยธโร” สิริอายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดสนมลาว ร่างหลวงพ่อผินะนั่งหมดลมหายใจในท่านั่งขัดสมาธิอย่างสงบ เหตุที่ไม่ปกติเพราะท่านมรณภาพเวลาประมาณ 05.14 น. แต่เวลาล่วงเลยกว่า 12 ชั่วโมงแล้วร่างกายเนื้อตัวท่านยังอ่อนนิ่ม ไม่คล้ายดังคนที่หมดลมหายใจแต่อย่างใด

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
post