ความจริงพระพุทธรูปปางโปรดยสะ ไม่มีเรียกดอก ส่วนมากจะ เรียกว่า ปางภัตตกิจ คือ ปางเสวยพระกระยาหาร คือ เสวยภัตตา- หารที่บ้านบิดามารดาของยสะกุลบุตร การบวชของยสะกุลบุตรนั้น ทำให้พระพุทธศาสนาแพร่หลายรวดเร็ว เพราะหลังจากยสะมา บวช สหายของท่านและบริวารตามมาบวชด้วย จนเกิดมีพระ อรหันต์สาวก ขึ้นจำนวนทั้งหมด ๖๐ รูป ชั่วระยะเวลาไม่นาน
ยสะเป็นบุตรแห่งเศรษฐีเมืองพาราณสี ชื่อเสียงเรียงไรไม่บอกไว้ คืนวันหนึ่งตื่นขึ้นมากลางดึก เห็นภาพเหล่าสตรีที่มาประโคมดนตรี ฟ้อนรำฯลฯ ปรากฎแก่ยสะ ดุจ “ซากศพในป่าช้า” ยสะเห็นแล้ว ก็สลดใจ เบื่อหน่ายเต็มที่ ถึงกับเปล่งอุทานว่า อุปัททูตัง วะตะ โภ อุปะสัฏฐัง วะตะ โภ ท่านแปลได้ความกระชับว่า “ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ” ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงเดินลงจากคฤหัสน์กลางดึก
พระพุทธองค์ตรัสว่า “อิทัง อะนุปัททูตัง อิทัง อะนุปะสัฏฐัง = ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง มานี่สิ เราจะแสดงธรรมให้ฟัง” ตรัสเทศนาอนุปุพพิกถา เป็นการปูพื้นให้ยสะก่อนแล้วตามด้วย อริยสัจสี่ประการโดยพิศดาร เมื่อจบพระธรรมเทศนา ยสะดวงตา เห็นธรรม คือบรรลุโสดาปัตติผล และได้บรรลุพระอรหัตตผล เมื่อ พระพุทธองค์แสดงธรรมโปรดพ่อแม่ของยสะจบลง (ซึ่งออกตาม หายสะ จนได้พบพระพุทธเจ้า) บิดามารดาท่านยสะเป็นอุบาสก- อุบาสิกาคู่แรกที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
41 ซอยพัฒนาการ 64 ถนนพัฒนาการ แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250