พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๖๘. พระเมตตคู


 

ย้อนกลับ ถัดไป

พระเมตตคู เป็นบุตรพราหมณ์ในพระนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยา ในสำนักของพราหมณ์พาวรีผู้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้นต่อมา พราหมณ์พาวรี มีความเบื่อหน่ายในฆราวาสวิสัย จึงได้ทูลลาออกจากหน้าที่ปุโรหิต ออกบวชเป็นชฎิล ประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์ ตั้งอาศรมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี เมตตคูมาณพออกบวชติดตามไปศึกษาศิลปวิทยาอยู่ด้วย และอยู่ในศิษย์ ๑๖ คน ที่พราหมณ์พาวรี ได้ผูกปัญหาให้ไปทูลถามพระบรมศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์แคว้นมคธ

เมตตคูมาณพ ทูลถามปัญหาเป็นคนที่สี่ว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลถาม ทราบมาว่า พระองค์ถึงที่สุดจบไตรเพท มีจิตอันได้อบรมดี แล้วทุกข์ในโลกหลายประการล้วนมีเหตุมาแต่อะไร? พระศาสดา มีดำรัสตอบว่า ท่านถามเราถึงเหตุเกิดแห่งทุกข์ เราจะบอกแก่ท่าน ตามรู้เห็นทุกข์ในโลกนี้ มีอุปธิคือกรรมและกิเลสเป็นเหตุ ล้วนเกิดมาก่อนแต่อุปธิ ผู้ใดเป็นคนเขลา ไม่รู้แล้ว กระทำอุปธินั้นให้เกิดขึ้น ผู้นั้นย่อมถึงทุกข์เนืองๆ เหตุนั้น เมื่อรู้เหตุว่าอุปธิเป็นตัวให้เหตุเกิดแล้ว อย่ากระทำให้อุปธินั้นเกิดขึ้น เมตตคูมาณพ ถามต่อว่า ผู้มีปัญญา จึงข้ามพ้นห้วงทะเลใหญ่ คือ ชาติชรา และโศกพิไรรำพันได้ ขอพระองค์จงทรงแก้ข้อนั้น ประทานแก่ข้าพระพุทธเจ้า เพราะว่าธรรมนั้นพระองค์ก็ทรงทราบแล้ว พระพุทธเจ้าตอบว่า เราจักแสดงธรรมที่จะพึงเห็นแจ้งด้วยตนเอง อัตภาพนี้ ไม่ต้องพิศวงตามคำของผู้อื่นว่า คืออย่างนี้ๆ ที่บุคคลได้ทราบแล้ว จะเป็นผู้มีสติ ดำเนินข้ามความอยากอันให้ติดอยู่ในโลกเสียได้แก่ท่าน เมตตคูมาณพ ข้าพระพุทธเจ้ายินดี ธรรมที่สูงสุด นั้นเป็นอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าตอบว่า ท่านรู้อย่างใดอย่างหนึ่ง ในส่วนเบื้องบน (คือ อนาคต) ในส่วนเบื้องต่ำ (คือ อดีต) ในส่วนท่ามกลาง (คือ ปัจจุบัน) จงบรรเทาความเพลิดเพลิน ความยึดมั่นในส่วนเหล่านั้นเสีย วิญญาณของท่าน จะไม่ตั้งอยู่ในภพ ภิกษุผู้มีธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างนี้ มีสติไม่เลินเล่อ ได้ทราบแล้ว ละความถือมั่นว่าเป็นของเราเสียได้แล้ว จะละทุกข์ คือ ชาติชรา และโศกพิไรรำพันในโลกนี้ได้

เมตตคูมาณพถามอีกว่า ธรรมอันไม่มีอุปธิ พระองค์ทรงแสดงชอบแล้ว พระองค์คงละทุกข์ได้แน่แล้ว แม้ท่านผู้รู้ ที่พระองค์ทรงสั่งสอนอยู่เป็นนิตย์ไม่หยุดหย่อน คงละทุกข์นั้นได้ด้วยเป็นแน่ เหตุนั้น ข้าพระพุทธเจ้า จึงได้มาถวายบังคมพระองค์ด้วยตั้งใจจะให้ทรงสั่งสอนข้าพระพุทธเจ้าเป็นนิตย์ไม่หยุดหย่อนเหมือนอย่างนั้นบ้างหรือ พระพุทธเจ้าตอบว่า ท่านรู้ว่าผู้ใดเป็นพราหมณ์ ถึงที่สุดจบไตรเพท ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล ไม่ติดข้องอยู่ในกามภพ ผู้นั้นแลข้ามพ้นเหตุแห่งทุกข์ได้ ดุจ ห้วงทะเลอันใหญ่นี้ได้แน่แล้ว ครั้นข้ามถึงฝั่งแล้ว เป็นคนไม่มีกิเลสอันตรึงจิต สิ้นความสงสัย ผู้นั้นครั้นรู้แล้ว ถึงที่สุดจบไตรเพทในศาสนานี้ ละธรรมที่เป็นเหตุติดข้องอยู่ในภพน้อยภพใหญ่เสียได้แล้ว เป็นคนมีความอยากสิ้นแล้ว ไม่มีกิเลสอันจะ กระทบจิตหาความอยากทะเยอทะยานมิได้ เรากล่าวว่า ผู้นั้นแล ข้ามพ้นชาติชราได้แล้ว

ในที่สุดแห่งการแก้ปัญหา เมตตคูมาณพ ก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล เมื่อจบโสฬสปัญหาพยากรณ์แล้ว เมตตคูมาณพพร้อมด้วยมาณพอีก ๑๕ คน ทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต ให้เป็นภิกษุในพระธรรมวินัยด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา





ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม