พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๖๗. พระปุณณกะ


 

ย้อนกลับ ถัดไป

พระปุณณกะ เป็นบุตรพราหมณ์ในพระนครสาวัตถี เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยา ในสำนักของพราหมณ์พาวรีผู้เป็น ปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิโกศล ครั้นต่อมา พราหมณ์พาวรี มีความเบื่อหน่ายในฆราวาสวิสัย จึงได้ทูลลาออกจากหน้าที่ปุโรหิต ออกบวชเป็นชฎิลประพฤติพรต ตามลัทธิของพราหมณ์ ตั้งอาศรมอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำโคธาวารี ปุณณกมาณพออกบวชติดตามไปศึกษาศิลปวิทยาอยู่ด้วย และอยู่ในศิษย์ ๑๖ คน ที่พราหมณ์พาวรี ได้ผูกปัญหาให้ไปทูลถามพระบรมศาสดา ที่ปาสาณเจดีย์แคว้นมคธ

ปุณณกมาณพ ได้ทูลถามปัญหาเป็นคนที่สามว่า บัดนี้ มีปัญหามาถึงพระองค์ ผู้ที่หาความหวาดหวั่นมิได้ รู้เหตุที่เป็นรากเหง้าของสิ่งทั้งปวง ข้าพระพุทธเจ้าขอทูลถาม หมู่มนุษย์ในโลกนี้ คือ ฤาษี กษัตริย์ พราหมณ์ เป็นอันมาก อาศัยอะไรจึงบูชายัญ บวงสรวงเทวดา ขอพระองค์จงตรัสบอกข้อความนี้แก่ข้าพระพุทธเจ้า พระบรมศาสดา ทรงตอบว่า หมู่มนุษย์เหล่านั้น อยากได้ของที่ตนปรารถนา อาศัยที่มีชราทำให้แปรเปลี่ยน จึงบูชายัญบวงสรวงเทวดา ปุณณกะถามต่อว่าหมู่มนุษย์เหล่านั้น ถ้าไม่ประมาทในยัญของตน จะข้ามพ้นชาติชราได้บ้างหรือไม่? พระพุทธเจ้าทรงตอบว่า หมู่มนุษย์เหล่านั้น มุ่งลาภที่ตนหวัง จึงพูดสรรเสริญการบูชายัญ รำพันสิ่งที่ตัวปรารถนา ก็เพราะอาศัยลาภ เรากล่าวว่าผู้บูชายัญเหล่านั้น ยังเป็นคนกำหนัดยินดีในภพ ไม่ข้ามพ้นชาติชราไปได้ ปุณณกเถระถามอีกว่า ถ้าผู้บูชายัญเหล่านั้น ข้ามพ้นชาติชราเพราะยัญของตนไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ใครเล่าในเทวโลกหรือมนุษย์โลกข้ามพ้นชาติชรานั้นได้แล้ว พระพุทธเจ้าตอบว่า ความอยากซึ่งเป็นเหตุดิ้นรนทะเยอทะยานของผู้ใด ไม่มีอยู่ในทุกๆ ชาติ เพราะได้พิจารณาเห็นธรรมที่ยิ่งและหย่อนในโลก เรากล่าวว่า ผู้นั้นซึ่งสงบระงับแล้ว ไม่มีทุจริต ความประพฤติชั่วอันจะทำให้มัวหมอง ดุจควันไฟอันจับเป็นเขม่าไม่มีกิเลสอันจะกระทบจิต หาความอยากทะเยอทะยานมิได้ข้าม พ้นชาติชราไปได้แล้ว

ครั้นพระบรมศาสดาทรงแก้ปัญหาที่ปุณณกมาณพ ทูลถามอย่างนี้แล้ว ในที่สุดแห่งการแก้ปัญหา ปุณณกมาณพ ได้ สำเร็จพระอรหัตผล เมื่อพระศาสดาทรงตอบปัญหาแห่งมาณพคนอื่นๆ เสร็จสิ้นแล้ว ปุณณกมาณพพร้อมด้วยมาณพอีก ๑๕ คน ขออุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา





ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม