พระกาฬุทายี ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านพระกาฬุทายี มาเกิดเป็นบุตรมหาอำมาตย์ ในกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นสหชาติ คือ เกิดพร้อมกันกับพระมหาบุรุษ (ผู้ที่เกิดพร้อมในวัน เดียวกัน กับพระมหาบุรุษ เรียกว่าสหชาติมี ๗ คือ ไม้มหาโพธิ ๑ พระนางยโสธรา (พิมพา) มารดาพระราหุล ๑ ขุมทองทั้งสี่ ๑ ช้างพระที่นั่ง ๑ ม้ากัณฐก อัศวราช ๑ นายฉันนะอำมาตย์ ๑ กาฬุทายีอำมาตย์ ๑ ทั้ง ๗ นี้เกิดพร้อมกันกับพระมหาบุรุษเจ้า)
เดิมชื่อว่าอุทายี เมื่อเจริญวัยขึ้นแล้ว ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในพระมหาบุรุษเจ้า เป็นผู้สนิทสนมแลคุ้นเคยกับพระมหาบุรุษมาก ครั้นเมื่อพระมหาบุรุษเสด็จออกทรงผนวช ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้วเสด็จเทศนาสั่งสอน แก่เวไนยสรรพสัตว์ เมื่อเวลาพระองค์เสด็จประทับอยู่ในกรุงราชคฤห์มหานคร พระเจ้าสุทโธทนะ ผู้เป็นพระพุทธบิดาทรงทราบ มีพระราชประสงค์ใคร่จะทอดพระเนตรพระราชโอรส จึงมีพระราชโองการ ดำรัสใช้อำมาตย์คนหนึ่ง พร้อมกับบริวารพันหนึ่งให้ไปทูลเชิญเสด็จสมเด็จพระบรมศาสดา อำมาตย์รับพระราช โองการแล้วพาบริวารไปเฝ้าพระบรมศาสดา ได้ฟังพระธรรมเทศนา บรรลุพระอรหัตต์แล้วพร้อมด้วยบริวาร ทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย ครั้นได้อุปสมบทแล้ว ไม่ได้ทูลเชิญสมเด็จพระบรมศาสดา และทั้งไม่ได้ส่งข่าวให้พระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบ
ส่วนพระเจ้าสุทโธทนะ พุทธบิดาเมื่อไม่เห็นพระโอรสเสด็จมา และทั้งไม่ได้ทราบข่าวด้วย จึงใช้อำมาตย์พร้อมด้วยบริวารพันหนึ่งไปอีก อำมาตย์ก็ไปบวชเสีย ไม่ส่งข่าวให้ทราบโดยนัยก่อนถึง ๙ คนแล้ว ครั้นครั้งที่ ๑๐ จึงตรัส สั่งให้กาฬุทายีอำมาตย์ซึ่งเป็นคนคุ้นเคย และเป็นคนที่โปรดปรานของพระบรมศาสดาให้ไปทูลเชิญเสด็จ กาฬุทายีอำมาตย์ทูลลาบวชด้วย ครั้นได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว พาบริวารพันหนึ่งไปเฝ้าพระบรมศาสดาที่พระเวฬุวัน ได้ฟังพระธรรมเทศนา บรรลุพระอรหัตผลแล้ว พร้อมด้วยบริวาร ทูลขออุปสมบทใน พระธรรมวินัยพระองค์ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา
ท่านกาฬุทายีเถระ ทำราชนิเวศน์ของพระเจ้าสุทโธทนะมหาราช ผู้ยังไม่พบพระพุทธ เจ้าให้เลื่อมใส ด้วยความสามารถของท่านในเรื่องนี้ ท่านจึงได้รับยกย่องจากสมเด็จพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้ยังสกุลที่ยังไม่เลื่อมใส ให้ เลื่อมใส (กุลปฺปสาทกานํ)
|