พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๕๘. พระปิณโฑลภารทวาชะ


 

ย้อนกลับ ถัดไป

พระปิณโฑลภารทวาชะ ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านพระปิณโฑลภารทวาชเถระ เป็นบุตรพราหมณ์มหาศาลภารทวาชโคตร ในกรุงราชคฤห์ มีชื่อตามสกุลว่า ภารทวาชมาณพ เป็นคณาจารย์บอกศิลปวิทยา เมื่อเจริญวัยขึ้นแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนจบไตรเพทตามลัทธิของพราหมณ์ มีความชำนิชำนาญได้เป็นคณาจารย์บอกศิลปวิทยาแก่มาณพประมาณ ๕๐๐ คน ภารทวาชมาณพนั้น มีความโลภในอาหาร เที่ยวไปแสวงหาอาหารกับพวกมาณพผู้เป็นศิษย์ในที่ต่างๆ คือ ในที่ตนควรได้บ้างไม่ควรได้บ้างเหตุ ดังนั้น จึงมีนามปรากฏว่า “ปิณโฑลภารทวาชมาณพ”

ครั้นเมื่อพระบรมศาสดา ประกาศพระศาสนามาโดยลำดับ จนบรรลุถึงพระนครราชคฤห์ ปิณโฑลภารทวาชมาณพ ได้ทราบข่าวจึงเข้าไปเฝ้า ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้ว เกิดความเลื่อมใส ทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา ครั้นพระปิณโฑลภารทวาชะ ได้อุปสมบทแล้ว เป็นผู้ไม่ประมาท อุตสาหะเจริญ สมณธรรมในวิปัสสนากรรมฐานไม่ช้าไม่นานก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล

ท่านเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอินทรีย์ ๓ ประการคือ สตินทรีย์, สมาธินทรีย์, และปัญญินทรีย์ ในวันที่ท่านได้บรรลุอรหัตผลนั้น ท่านถือเอาอาสนะเครื่องลาดไปสู่บริเวณวิหาร ปูลาดแล้วเที่ยวบันลือออกซึ่งสีหนาทด้วยวาจาอันองอาจว่า ผู้ใดมีความสงสัยมรรคหรือผล ผู้นั้นจงถามเราเถิด ไม่ว่าจะไปในที่ไหนแม้ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระศาสดา ท่านก็บันลือสีหนาทว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กิจที่ควรกระทำในพระศาสนานี้ถึงที่สุดแล้ว อาศัยเหตุนี้ พระบรมศาสดาจึงทรงยกย่องว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้บันลือสีหนาท (สีหนาทิกานํ)





ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม