พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๕๑. พระสภิยะ


 

ย้อนกลับ ถัดไป

พระสภิยะ มีชาติภูมิอยู่ที่ไหน เป็นบุตรของใคร ไม่ปรากฏในตำนาน ปรากฏแต่ว่าท่านเป็นปริพาชก ชื่อว่าสภิยะ สมัยเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร อันเป็นกลันทกนิวาปสถานในกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น เทวดาที่เคยเป็นญาติสายโลหิตกันมาแต่ชาติก่อน ได้ผูกปัญหาให้แก่สภิยปริพาชก แล้วสั่งความว่า ดูก่อนสภิยะ สมณพราหมณ์ผู้ใด แก้ปัญหาที่ท่านถามนี้ได้แล้วท่านพึงประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักของสมณพราหมณ์ผู้นั้น

สภิยปริพาชก เรียนเอาปัญหาในสำนักของเทวดานั้น จำได้แล้ว เที่ยวถามสมณพราหมณ์ผู้เป็นคณาจารย์ใหญ่ มียศปรากฏชื่อเสียงในครั้งนั้น มีครูทั้งหก คือ ปูรณกัสสปะ, มักขลิโคศาล, อชิตเกสกัมพล, ปกุทธกัจจายนะ, สัญชัยเวฬัฏฐบุตร และนิคันถนาฏบุตร เป็นต้น ครูเหล่านั้นก็พากันแก้ไม่ได้แม้สักคนเดียว ซ้ำยังกลับพูดเยาะเย้ยสภิยปริพาชกมีประการต่างๆ เสียอีก ครั้งนั้น สภิยปริพาชก เมื่อถูกครูทั้งหลายเยาะเย้ยแล้ว ก็เกิดความท้อใจ คิดจะกลับไปเป็นคนเลว บริโภคกามคุณ ครั้นมาหวนคิดถึงพระสมณโคดมขึ้น ได้จึงตกลงใจจะไปเฝ้า แต่ยังมีความสงสัยในใจว่า พวกสมณพราหมณ์ มีครูทั้งหกเป็นต้น ก็เป็นคนผู้เฒ่าผู้แก่ บวชมาเป็นเวลานาน เป็นคณาจารย์สั่งสอนแก่หมู่ศิษย์มาก ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ แล้วไฉนพระสมณโคดม ยังเป็นเด็กอยู่ ทั้งบวชใหม่ด้วย จะแก้ปัญหานี้ได้เทียวหรือ และได้บรรเทาความสงสัยด้วยตนเองว่า ถึงแม้พระสมณโคดม จะยังเด็กเล็กอยู่ก็จริง แต่พระองค์เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพใหญ่ จึงได้เข้าไปเฝ้าพระบรมศาสดาที่เวฬุวันมหาวิหาร ในกรุงราชคฤห์ กราบทูลขอโอกาสถามปัญหา เมื่อพระองค์ทรงอนุญาตแล้ว ได้ทูลถามปัญหาหลายหมวดหลายตอน

ในที่สุดแห่งการพยากรณ์ปัญหา สภิยปริพาชกเกิดความเลื่อมใสแล้ว ทูลขอบรรพชาอุปสมบทในพระธรรมวินัย พระองค์รับสั่งให้อยู่ติตถิรปริวาส (วิธีอยู่กรรมสำหรับเดียรถีย์ที่ขอบวชในพระพุทธศาสนา) ครบกำหนด ๔ เดือน แล้วก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา หลีกอยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท อุตส่าห์บำเพ็ญเพียร ไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคล นับเข้าในพระสาวกผู้ใหญ่รูปหนึ่ง





ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม