พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๒๙. พระราหุล


 

ย้อนกลับ ถัดไป

ท่านพระราหุล มาบังเกิดเป็นโอรสของเจ้าชายสิทธัตถะกับพระนางยโสธรา (พิมพา) เป็นพระนัดดาของพระเจ้าสุทโธทนะ ผู้ครองกบิลพัสดุ์ เมื่อพระบรมศาสดาได้ตรัสรู้แล้ว เสด็จมาเทศนาโปรดพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์ ประทับอยู่ที่นิโครธาราม

วันหนึ่ง พระองค์เสด็จไปที่พระราชนิเวศน์ของ พระนางยโสธรา พระราชเทวีเก่าของพระองค์ พระราชเทวีได้ส่งราหุลกุมารผู้เป็นพระโอรสออกมาทูลขอราชสมบัติที่ควรจะได้ ราหุลกุมารออกไปเฝ้าเจรจา ปราศรัยแสดงความรักใคร่มีประการต่างๆ ครั้นเห็นพระบรมศาสดาจะเสด็จกลับ จึงร้องทูลขอราชสมบัติตามจุดประสงค์ที่เสด็จมา พระบรมศาสดาทรง พระดำริว่า ก็ทรัพย์สมบัติทั้งหลายมั่นคงถาวร และประเสริฐยิ่งกว่าอริยทรัพย์ มิได้มี ควรที่เราจะให้อริยทรัพย์แก่ราหุล เมื่อทรงดำริอย่างนี้แล้ว จึงตรัสสั่งพระสารีบุตรว่า ถ้าอย่างนั้นสารีบุตร บวชให้ราหุลเถิด

ครั้งนั้น ราหุลกุมารยังเยาว์อยู่มีอายุยังไม่ครบอุปสมบท พระสารีบุตรจึงทูลถามว่าจะให้ข้าพระพุทธเจ้าบวชราหุลกุมารอย่างไร พระบรมศาสดาปรารภเรื่องนี้ให้เป็นต้นเหตุ จึงทรงพระอนุญาตให้ภิกษุบุตรกุลบุตร ที่มีอายุยังไม่ครบอุปสมบทให้เป็นสามเณรเป็นครั้งแรก ด้วยไตรสรณคมน์ เมื่อราหุลกุมารบวชเป็นสามเณรแล้ว ตามเสด็จพระบรมศาสดาและพระอุปัชฌายะของตนไป ครั้นเมื่อมีอายุครบแล้ว ก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ

วันหนึ่ง ท่านพระราหุลอยู่ ณ สวนมะม่วงแห่ง หนึ่งในกรุงราชคฤห์ พระบรมศาสดาเสด็จไป ณ ที่นั้น ทรงแสดงเทศนาราหุโลวาทสูตร ซึ่งว่าด้วยภาชนะน้ำเปล่า บรรยายเปรียบเทียบด้วยคนพูดมุสาวาทเป็นต้น ตรัสสอนให้พระราหุลสำเหนียกตามเทศนานั้น แล้วเสด็จกลับไป อีกวันหนึ่ง พระราหุลเข้าเฝ้า พระบรมศาสดาสั่งสอนด้วยเทศนามหาราหุโลวาท ซึ่งว่าด้วยรูปกรรมฐานธาตุ ๕ อย่าง คือ ปฐวีธาตุ ธาตุดิน, อาโปธาตุ ธาตุน้ำ, เตโชธาตุ ธาตุไฟ, วาโยธาตุ ธาตุลม. และอากาศธาตุ ช่องว่าง, ให้พิจารณาด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างไรว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ของเรา ส่วนนั้นไม่เป็นของเรา ส่วนนั้นไม่ใช่ของตัวเราเป็นต้น ในที่สุดตรัสสอนให้กรรมฐานอื่น ให้เจริญภาวนา คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อสุภสัญญา อนิจจสัญญา ครั้นทรงสอนจบแล้ว พระราหุลมีจิตยินดีคำสอนของพระบรมศาสดา

ภายหลังพระราหุลได้ฟังพระโอวาทที่พระบรมศาสดาสั่งสอนในทางวิปัสสนา คล้ายกับโอวาทที่ตรัสสอน ภิกษุปัญจวัคคีย์ เป็นแต่ในที่นี้ยกอายตนะภายในภายนอก เป็นต้น ขึ้นแสดงแทนขันธ์ห้า ท่านส่งจิตไปตามพระธรรมเทศนาก็ได้บรรลุพระอรหัตผล

ท่านพระราหุลนั้น เป็นผู้ใคร่ในการศึกษาธรรมวินัย ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ท่านพระราหุลนั้น ครั้นลุกขึ้นแต่เช้าแล้ว จึงไปกอบทรายให้เต็มฝ่าพระหัตถ์แล้ว ตั้งความปรารถนาว่า ในเวลานี้ข้าพเจ้าพึงได้รับซึ่งโอวาทคำสั่งสอนแต่สำนักพระบรมศาสดา หรือแต่สำนักพระอุปัชฌายาจารย์ทั้งหลายให้ได้มากประมาณเท่า เม็ดทรายในกำมือแห่งข้าพเจ้านี้ ด้วยเหตุนั้น พระราหุลจึงได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ใคร่ในการศึกษา (สิกฺขกามานํ)





ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม