พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๑๒. พระอุรุเวลกัสสปะ


 

ย้อนกลับ ถัดไป

พระอุรุเวลกัสสปะ เป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ได้รับการยกย่องเป็นพระอสีติมหาสาวก ผู้เป็นเอตทัคคะในด้านผู้มีบริวารมาก

พระอุรุเวลกัสสปะ เกิดในตระกูลพราหมณ์กัสสปโคตร มีน้องชาย ๒ คน ชื่อกัสสปะเหมือนกัน ได้ศึกษาจบไตรเพท คือ พระเวท ๓ อย่าง คือ ฤคเวท ยชุรเวท และสามเวท กัสสปะพี่ชายคนโตนั้น มีบริวาร ๕๐๐ คน กัสสปะคนกลาง มีบริเวณ ๓๐๐ คน และกัสสปะคนเล็กสุดท้าย มีบริวาร ๒๐๐ คน ต่อมาทั้งสามพี่น้องพากันออกบวชเป็นฤๅษีชฎิล พี่คนโตได้ชื่อว่า “อุรุเวลกัสสปะ” น้องชายคนกลางชื่อว่า “นทีกัสสปะ” ส่วนน้องชายคนเล็กชื่อว่า “คยากัสสปะ”

เนื่องจากท่านพระ อุรุเวลกัสสปะ เป็นผู้ประกอบด้วยพรหมวิหารธรรม อันเป็นธรรมสำหรับผู้ใหญ่ใช้ปกครองดูแลบริวารให้มีความสุข ซึ่งประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ด้วยคุณธรรมเหล่านี้ จึงทำให้ท่านเป็นพุทธสาวกรูปเดียวที่มีบริวารมากที่สุด

เมื่อพระพุทธองค์ ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ในพรรษานั้น มีพระสงฆ์สาวกผู้สำเร็จพระอรหันต์ จำนวน ๖๐ รูป ออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังถิ่นต่างๆ ส่วนพระพุทธองค์เสด็จไปตำบล อุรุเวลาเสนานิคมเพื่อโปรด ชฏิลคืออุรุเวลกัสสปะ หลังจากพระพุทธองค์ทรมานให้คลายทิฐิลง และได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระพุทธศาสดา จนได้บรรลุธรรม และได้ขอเป็นสาวกของพระศาสดา จากนั้นก็ประกาศชักชวนชฎิลบริวารของตนทั้งหมดพากันลอยบริขารดาบส ทูลขออุปสมบท พระบรมศาสดาประทาน การอุปสมบทด้วยวิธี เอหิภิกขุอุปสัมปทา พร้อมกันทั้งหมดรวมทั้งนทีกัสสปะ และคยากัสสปะ น้องชายทั้งสองคนและบริวารของทั้งสองคนทั้งหมด

พระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็น อินทรีย์ของภิกษุใหม่แก่กล้าแล้ว จึงตรัสเรียกท่านเหล่านั้นมาประชุมพร้อมกันแล้วตรัสพระธรรมเทศนา “อาทิตตปริยายสูตร” ทรงแสดงถึงอายตนะภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ เป็นของร้อน และความรู้สึกว่าเป็นสุขเป็นทุกข์ ผู้ได้สดับและรู้เท่าทันกิเลสเหล่านี้แล้ว ย่อมคลายกำหนัด เมื่อคลายกำหนัดแล้ว จิต ก็ไม่ยึดมั่นไม่ถือมั่นสิ่งเหล่านั้น ขณะที่พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนาอยู่นั้น ภิกษุชฎิล ทั้ง ๑,๐๐๓ รูป ส่งกระแสจิตไปตามวาระแห่งพระธรรม เทศนา จิตของพวกเธอ ก็หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวง สำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพด้วยกัน

พระอุรุเวลกัสสปะ เมื่อได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้ช่วยกิจ การพุทธศาสนา และช่วยแบ่งเบาภาระของพระบรมศาสดาได้เป็นอย่างมาก ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับพระพุทธองค์ได้เสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสารและบริวาร ทรงแสดง “อนุปุพพิกถา” และ “อริยสัจ ๔” ครั้นพระธรรมเทศนาจบลง พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ๑๑ นหุตะ ได้บรรลุ โสดาปัตติผล ส่วนอีก ๑ นหุตะ ดำรงอยู่ในไตรสรณคมน์ ประกาศตนเป็นพุทธมามกะ บั้นปลายชีวิต พระอุรุเวลกัสสปะ ดำรงอายุสังขารสมควรแก่กาลเวลา แล้วก็ดับขันธปรินิพพาน





ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม