พิพิธภัณฑ์จรรโลงพุทธศาสนา

๑. พระอัญญาโกณทัญญะ


 

ย้อนกลับ ถัดไป

พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นพระภิกษุสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์ และพระอสีติมหาสาวก ผู้เป็นเอตทัคคะในด้านรัตตัญญู คือ เป็นผู้รู้ธรรมก่อนใคร ในพระพุทธศาสนาและได้บวชก่อนผู้อื่น

พระอัญญาโกณฑัญญะ เมื่อได้ตรัสรู้ธรรมแล้วไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาเท่าใดนัก เนื่องจากท่านทรง อายุพรรษากาลมากแล้ว ในช่วง 12 ปีสุดท้าย ในบั้นปลายของท่าน ท่านได้ไปพักจำพรรษาและได้นิพพานที่สระฉันทันต์ป่าหิมพานต์ ในช่วงต้นพุทธกาล

พระอัญญาโกณฑัญญะ เกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ในหมู่บ้านโทณวัตถุ กรุงกบิลพัสดุ์ ได้พิจารณาตรวจดูพระลักษณะของพระกุมารว่า "จะไม่อยู่ครองเพศฆราวาสอย่างแน่นอน จักต้องเสด็จออกบรรพชา และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างมิต้องสงสัย" ครั้นพระโพธิสัตว์ตรัสรู้ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงดำริ พิจารณาหาบุคคลผู้สมควรจะรับฟังพระปฐมเทศนาและตรัสรู้ตามได้ จึงได้เสด็จพุทธดำเนินไปสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เพื่อทรงประกาศพระสัพพัญญุตญาณ แก่เหล่าปัญจวัคคีย์ โดยตรัสพระธรรมจักรกัปวัตนสูตรเป็นปฐมเทศนา

ซึ่งเนื้อความในพระธรรมเทศนานี้ พระพุทธองค์ทรงตำหนิหนทางปฏิบัติอันไร้ประโยชน์ 2 ทางที่บรรพชิตไม่ควรเสพ คือ
1. กามสุขัลลิกานุโยค การปฏิบัติที่ย่อหย่อนเกินไป แสวงหาแต่กามสุข อันพัวพันหมกมุ่นแต่รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส
2. อัตตกิลมถานุโยค การปฏิบัติตนให้ได้รับความลำบาก เคร่งครัดเกินไป กระทำตนให้ได้รับความทุกข์ ทรมาน เป็นการกระทำที่เหนื่อยเปล่า ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่ทางแห่งความหลุดพ้น

จากนั้น พระพุทธองค์ตรัสชี้แนะวิธีปฏิบัติแบบ "มัชฌิมาปฏิปทา" คือ การ ปฏิบัติแบบกลางๆ ไม่ย่อหย่อนเกินไปแบบประเภทที่หนึ่งและไม่ตึงเกินไปแบบประเภทที่สอง ดำเนินตามทางสายกลาง ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค คือ ทางอันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ ได้แก่
1. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ
2. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ
3. สัมมาวาจา เจรจาชอบ
4. สัมมากัมมันตะ ทำการงานชอบ
5. สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ
6. สัมมาวายามะ เพียรชอบ
7. สัมมาสติ ระลึกชอบ
8. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตไว้ชอบ

เมื่อจบ พระธรรมเทศนา ธรรมจักษุ คือดวงตาเห็นธรรมเกิดขึ้นแก่โกณฑัญญะว่า "สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมด มีความดับไปเป็นธรรมดา" พระพุทธองค์ทรงทราบว่าโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบันบุคคลในพระพุทธศาสนาแล้ว จึงทรงเปล่งอุทานด้วยความพอพระทัยว่า "อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ" ซึ่งแปลว่า "โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ"

เมื่อท่านได้บรรลุธรรม เป็นพระโสดาบัน แล้ว ท่านได้กราบทูลขออุปสมบท พระพุทธองค์ประทานการอุปสมบทให้ด้วยพระดำรัสว่า "เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติ พรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด" ด้วยพระวาจาเพียงเท่านี้ โกณฑัญญะก็สำเร็จเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา นับว่าเป็นพระสงฆ์รูปแรกในโลก และการอุปสมบทด้วยวิธีนี้เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา พระอัญญาโกณทัญญะได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะด้านรัตตัญญู เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้รัตตัญญู หมายถึง ผู้รู้ราตรีนาน ท่านได้อยู่จำพรรษาในป่าหิมพานต์ บริเวณใกล้สระฉัททันต์ เป็นเวลานาน 12 ปี และนิพพานในบรรณศาลาที่พักริมสระฉัททันต์นั้น



ย้อนกลับ ถัดไป

 

 

 

มูลนิธิธรรมทานกุศลจิต ธรรมะพีเดีย.คอม